การถ่ายภาพพลุนั้น ถ้าเป็นการถ่ายภาพพลุอย่างเดียวโดยไม่มีอย่างอื่นมาปะปนด้วย ให้จำไว้ว่า ขนาดของช่องรับแสงจะเป็นตัวกำหนดความสว่างและเส้นของพลุ ความไวชัตเตอร์จะเป็นตัวกำหนดความสั้นยาวของพลุ ถ้าใช้ช่องรับแสงกว้างๆ พลุที่ได้จะเส้นใหญ่ สว่าง สีซีดและไม่คมนัก แต่ถ้าใช้ช่องรับแสงแคบๆ พลุที่ได้จะเส้นเล็ก คม สีเข้มแต่ไม่สว่างเท่าไหร่
โดยทั่วๆไปแล้ว สำหรับISO 100 ให้เลือกที่5.6หรือ8ครับ จะเห็นว่าไม่ต้องวัดแสงเลย พลุมาปุ๊บกดชัตเตอร์Bปั๊บ พอพลุหมดแสงก็ปลดชัตเตอร์เท่านั้นเอง ง่ายๆ ถ้าอยากให้พลุเส้นยาวๆก็กดชัตเตอร์นานหน่อยตั้งแต่พลุดอกนั้นเริ่มยิง(เห็นเส้นลอยขึ้นไปในอากาศก่อนแตกตัว) รอจนแตกตัวหมดแล้วก็ปลดชัตเตอร์ หรือจะกดช่วงสั้นๆเพื่อให้เส้นไม่ยาวมากก็ได้ครับ ตามใจเราเลยอันนี้แต่ถ้าเราต้องการถ่ายพลุร่วมกับสถานที่ด้วย คราวนี้ต้องวัดแสงก่อนครับ ซึ่งกับกล้องDigital นี่จะง่ายมาก ก็คือคงค่าของช่องรับแสงเอาไว้ก่อน(อย่าลืมว่าขนาดของช่องรับแสงจะเป็นตัวกำหนดความสว่างและเส้นของพลุ) จากนั้นวัดแสงส่วนสว่างของภาพ แล้วดูว่าจะต้องใช้ความไวชัตเตอร์เท่าไหร่แสงของสถานที่นั้นจะพอดีแล้วจำค่านั้นไว้ครับ เช่นสมมติว่าเป็น4วินาทีที่f/5.6 เวลาพลุมาก็กดชัตเตอร์ คราวนี้เราต้องกดชัตเตอร์ตามเวลาที่เราวัดได้เมื่อครู่นะครับคือ4วินาที เราจะได้พลุที่มีความยาวของพลุพอสมควร และแสงของฉากหลังที่สว่างพอดี ไม่โอเวอร์หรืออันเดอร์จนเกินไปครับถ้าเป็นกล้องCompact ที่มีแต่โปรแกรมสำเร็จรูป ให้เลือกโปรแกรมที่เป็นแบบถ่ายภาพกลางคืน(มักจะเป็นรูปดาว)นะครับ และต้องสั่งให้ปิดแฟลชด้วย เพราะไม่ช่วยอะไรในภาพเลย และถ้ากล้องยังพอจะปิดระบบAFได้ ให้ปิดเลยครับ เพราะปกติกล้องCompactมี Timelag ค่อนข้างมากอยู่แล้ว หากให้AFทำงานอีก กว่าจะกดชัตเตอร์ลง พลุที่เล็งไว้ก็ดับไปแล้วละครับ
No comments:
Post a Comment